หนังสือหลายเล่มที่เพิ่งซื้อสัปดาห์ก่อน

7 ตุลาคม 2007 02:27 น. บันทึก

หลังจากเขียนเตือนตัวเองว่า “อย่ามัวแต่อ่านหนังสือ ให้อ่านใจ” ก็กลับบังเอิญได้มีโอกาสไปซื้อหนังสือพอดีเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากไม่มีโอกาสช้อปปิ้งมาเป็นเดือน

แม้ว่าควรจะรอจนอ่านจบก่อนแล้วค่อยพูดถึง กระนั้นในโลกแห่งความฉาบฉวยนี้ พูดถึงประเด็นที่ทำให้ตัดสินใจซื้อหนังสือแต่ละเล่มก็ไม่เลวทีเดียว

X-Ray คนไทย 360 องศา

โดย พงษ์ ผาวิจิตร

พลิกดู พบนิสัยเสียของคนไทยหลายอย่าง ซึ่งเห็นด้วยอยู่ไม่น้อย แล้วก็พลันเกิดภาวะปฏิทรรศน์ (Paradox) ย้อนแย้งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

นั่นคือ ผมเองจะรู้สึกเอือม และรังเกียจนิสัยชอบเบ่งของคนไทย ซึ่งจะปฎิบัติดีด้วยเมื่อเราวางอำนาจหรือด่า ในขณะที่เราเข้าไปหาอย่างสุภาพ ก็จะวางเขื่อง (พฤติกรรมนี้ ชาวยุโรปได้บันทึกไว้ตั้งแต่สมัยที่ดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกว่า สยาม) หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าพฤติกรรมนี้ ปะปนไปในมุขตลกมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่นคุณหม่ำจะต้องวางก้ามด่าใครเสมอ และประจบประแจงอีกตัวละครเสมอ ซึ่งผมไม่ตลก และรังเกียจคนที่กดขี่ (Discriminate) กัน

แล้วแวบนั้น ผมก็จะรู้สึกประหลาด (คือภาวะปฏิทรรศน์ หรือ Paradox ที่บอกไป) ผมเห็นคุณหม่ำทำท่ารังเกียจเพื่อนตลกที่ต่ำต้อย ผมเลยรังเกียจคุณหม่ำและนิสัยแบบนี้ของคนไทย ผมก็เลยเป็นแบบคุณหม่ำและคนไทยคนอื่นๆ ที่รังเกียจคนที่ต่ำต้อยปัญญาสถุล

นั่นคือในขณะที่ผมรู้สึกรังเกียจนั้น ผมเองก็เป็นคนแบบที่ผมรังเกียจไปด้วย

เหมือนกับที่ผมเคยรู้สึกว่า ชีวิตต้องไม่ยึดติด แต่แล้วผมก็กลับยึดติดกับคำว่า ไม่ยึดติด

เพราะถ้าหากชีวิตจะไม่ยึดติดจริงๆแล้วล่ะก็ ชีวิตต้องมีที่ว่างให้มีการยึดติดได้บ้าง ไม่งั้น ก็แปลว่า เราไปยึดติดกับการที่จะต้องไม่ยึดติดตลอดเวลา

ฯลฯ

เรื่องย้อนแย้งแบบนี้ คิดแล้วสนุกดี

รามานุจัน อัจฉริยะไม่รู้จบ

โดย Robert Kanigel (แปลโดย นรา สุภัคโรจน์)

ประทับใจตั้งแต่อ่านเรื่องของพอล แอร์ดิช (ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข) พอเห็นบทความในมติชน ก็เลยคิดว่าต้องหามาอ่านอีกแล้ว
นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่มักจะชอบจำนวนเฉพาะ, ชอบจำค่าพาย (Pi), และไม่ชอบแคลคูลัส
วัยเด็กของผมคลั่งไคล้เลข 14641 ซึ่งเป็นเลขจำนวนเฉพาะที่สูงที่สุดที่คำนวณได้สมัยนั้น และชอบเลข 3.1415926526 ซึ่งเป็นค่าพายที่มีทศนิยมมากเท่าที่เครื่องคิดเลขในวัยเด็กจะแสดงให้เห็น, และวัยเรียนของผม ก็รู้สึกว่า แคลคูลัสเนี่ย แม่งไม่ใช่คณิตศาสตร์ และพลอยไม่ชอบนิวตันไปด้วย

อ้างความเหมือนอัจฉริยะได้หน้าด้านขนาดนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้

อัจริยะ สร้างได้

โดย วนิษา เรซ

สะดุดตาครั้งแรกเพราะชอบฟ้อนท์ภาษาไทยที่อยู่บนปก ตอนแรกกะจะไม่อ่านเพราะมีอคติกับฮาร์วาร์ด, คนไทยที่จบนอก, คนดัง และชื่อหนังสือที่ How-to เหลือเกิน แต่พอเริ่มสำเหนียกว่า เรากำลังมีอคติ ก็เลยปรับความเข้าใจตนเอง แล้วก็ลองหยิบมาอ่าน

“…แม่เชื่อของแม่สุดหัวใจว่า หนูดีเป็นของขวัญที่มีค่ามากที่แม่จะมอบให้กับโลก และแม่พูดเสมอว่า ถ้าแม่ตาย แม่จะไม่เสียดายชีวิตเลย เพราะได้สร้างคนอย่างหนูดีขึ้นมาแล้ว หนูดีเชื่อว่า ใครก็ตามที่มีแม่แบบนี้ จะมีพลังทำอะไรก็ได้ในโลก…”

สงสัยจะอินต่อเนื่องจากการอ่านบล็อกของ คุณแม่มือใหม่ เลยทำให้การอ่านประโยคด้านบนเป็นไปอย่างซาบซึ้ง และเริ่มจะหลงรักคุณหนูดีเข้าอีกคน

ตามรอยรัก

โดย Paulo Coelho

หนังสือแปล เขียนโดยเปาโล คูเอลญู (Paulo Coelho) แค่ชื่อคนเขียน ก็ซื้อได้อย่างไม่ลังเลอยู่แล้ว เพราะเค้าเป็นคนเขียนหนังสือขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน ซึ่งผมเคย เขียนถึงว่ามันโคตรโรแมนติคเลย

หนังสือขึ้นคำโปรยว่า “แม้วิถีชีวิตจะผลักเราไปคนละทิศละทาง แต่ความรักเชื่อมเราสองคนไว้” ประโยคแรกเข้ากับชีวิตจริงขณะนี้มากๆ เลยซื้อมาอ่าน เผื่อจะเป็นอย่างประโยคที่สองมั่ง

รักที่ไม้บรรทัด 55 cm วัดไม่ได้

โดย Yoon, Sun-A (แปลโดย สิทธินี ธรรมชัย)

หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กทั่วไปตามแบบฉบับวัฒนธรรมส่งออกของเกาหลี ที่กระผมน่าจะไม่สนใจติดตามอ่านเท่าไหร่

แต่เมื่อผลิกอ่าน หนังสือที่กล่าวถึงความรักของคนสองคนที่สูงต่างกัน 55 cm (เพราะฝ่ายหญิงพิการ) ก็กลับทำให้อินได้ และเมื่ออ่านเจอตอนที่ฝ่ายชายขอฝ่ายหญิงแต่งงาน ก็น้ำตาซึมเลย

“คุณคิดว่าผมจะเหนื่อยเหรอ ไม่ต้องห่วง คุณนี่เป็นคนคิดมากจริงๆ ผมก็แค่ทำในสิ่งที่คุณทำไม่ได้เท่านั้น คุณจะบอกว่าคุณดองผักกิมจิไม่ได้ เราก็ซื้อกินเอาก็ได้นี่ เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็ซ้ิอกินกันทั้งนั้น ผักดองกิมจิที่ซื้อกินน่ะทั้งสะดวกและอร่อย คุณแค่อยู่เคียงข้างคอยส่งยิ้มให้ผมเหมือนเจ้าหญิงคนหนึ่งก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะยากจนและไม่มีความสามารถอะไร แต่ผมจะดูแลคุณอย่างดี ผมจะไม่ให้คุณเสียน้ำตา ผมอยากมีลูกสาวที่หน้าตาเหมือนคุณ เธอคงสวยน่ารักแน่นอนเลย

เรื่องสั้น “ที่อื่น”

โดย กิตติพล สรัคคานนท์

ไอ้จ๋งบอกว่า โดยลำพังแต่เพียงเรื่องสั้นเล่มบางๆนี้ และไม่ปรากฏว่าเค้าเป็นใครเลย อย่างน้อยที่สุด คนคนนี้คือนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ (โดยแนะนำมาด้วยว่า ศัพท์วัยรุ่นเรียกว่า เทพ)

ผมเพิ่มว่า เค้าน่าจะเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ที่ Google นั้น Search ไม่เจอ (เพราะไอ้จ๋งประทับใจเค้ามาก แต่ไม่อาจหาประวัติเจอในอินเตอร์เน็ท)

แล้วผมก็กลับมาใคร่ครวญว่า ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอนักเขียนโนเนมผู้สร้างงานอันบรรเจิดนั้นเมื่อไหร่กัน ในยุคสมัยของข้อมูลข่าวสารที่หาอะไรก็เจอนี้?

ผมชอบ ‘รงค์ วงศ์สวรรค์, ชอบชาติ กอบจิตติ, ชอบกนกพงศ์ สงสมพันธุ์, ชอบแบบหมั่นไส้นิดหน่อยกับวินทร์ เลียววาริน ฯลฯ ส่วนหนึ่งก็เพราะเรารู้จักตัวตนของเค้า งานของเค้าจึงขายมาเป็น Package ร่วมกับวิถีชีวิตของเค้า

แต่ กิตติพล สรัคคานนท์ ไม่มี Package ของวิถีชีวิตขายพ่วงมา กระนั้น คุณรักชวนหัว ก็ยังกล้ากล่าวว่า – ท่านทั้งหลายจำชื่อนี้ไว้ให้ดี ถ้าวันข้างหน้าไม่ติดปากประชาชี ถือว่าเทพอักษรไม่มีจริง

LA TRILOGIE NIKOPOL ไตรภาคนิโกโปล

โดย Enki Bilal (แปลโดย อธิชา มัญชุนากร)

ไอ้จ๋งแนะนำเช่นเคย การ์ตูนฝรั่งเศสเกี่ยวกับโลกอนาคตที่เพิ่งได้รับการแปลงเป็นภาษาไทย ลายเส้นบรรเจิดนัก

ดอนกิโฆเต้แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน

โดย มิเกล เด เชรมันเดส ซาเบดร้า (แปลโดย สว่างวัน ไตรเจริญวิวัฒน์)

ไอ้จ๋งพร่ำถึงหนังสือเล่มนี้มาหลายปีแล้ว กล่าวเยินยอและกวนตีนกระผมด้วยการบอกว่า ที่มันติดตามดูชีวิตผม มันก็เป็นเพียงแค่ผู้เฝ้าติดตามผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เหมือนตัวละครในหนังสือ เท่านั้นเอง (กระผมจำชื่อตัวละครไม่ได้)

ปกหลังหนังสือแปลจากสเปนเล่มนี้ กล่าวไว้ว่า
“ในชั่วชีวิตหนึ่ง หากแม้นสวรรค์ทรงอนุญาตให้อ่านหนังสือได้เพียงเล่มเดียว จงเลือกเล่มนี้เถิด ชีวิตจักไม่ตายเปล่าแน่แท้”

ไร้เลือด (Senza sangue )

โดย Alessandro Baricco

ผู้เขียนเรื่อง “ไหม” อันลือลั่นที่ไอ้จ๋งเอามาให้อ่าน เล่มนี้มันก็แนะนำเช่นกัน

ชีวิตแห่งศาสนา

โดย กฤษณมูร

เห็นชื่อ กฤษณมูรติ ก็นึกถึง นักอ่านหญิงคนหนึ่ง (Jandara, TheBearDiary) ขึ้นมาทันที ซึ้อมาด้วยความคิดถึงล้วนๆเลยนะเนี่ย

คำบรรยายพระไตรปิฎก

โดย คุณเสฐียรพงษ์ วรรณปก

เห็นชื่อคนเขียนก็ซื้อแล้วล่ะ พลิกเจอตรงไหนก็ชอบ ทั้งความแน่นในเนื้อหา การวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีมุมมองที่เปิดกว้าง ฯลฯ ไม่ยกตัวอย่างดีกว่า แต่ละประเด็น ยาวมั่กๆ

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. กอล์ฟ79 พูดว่า:

    ขอแนะนำ คินนิคุแมน 2 น่าอ่านมั่กๆ 29 ปีที่กลับมารุ่นลูก

  2. น้องสมตี๋ พูดว่า:

    The Zahir หรือตามรอยรัก ของลุงแป้งเย็น(เปาโล)เจ๋งมากเลยพี่
    เป็นเล่มที่ผมชอบที่สุดในบรรดาทุกเล่มที่เขาเขียนอ่ะ (ไม่นับ Alchemist นะ)

  3. ไอ่โอ๊ส พูดว่า:

    ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มไหนจบ..แบบจริงๆสักเล่ม..

    แต่รู้เรื่องหนังสือเยอะๆ ก็ลักจำมาจากพี่เม่นนี่แหล่ะ

    ……..
    ขอคาราเต้..อาจารย์ สักที..

    ผัวะๆๆๆๆๆ

    คาราวะ!!

  4. น้องสมตี๋ พูดว่า:

    หยาบคายอ่ะเฮียเม่น
    ต้อง “คาราครับ!!”

    พูดถึง“คารา”
    อยากร้องคาราโอเกะ เชิญที่ ScubaKaraoke นะขอรับ
    โฆษณาซ้า 555

  5. pp พูดว่า:

    ขอบคุณที่แนะนำค่ะ น่าสนใจหลายเล่มเลย อยากทราบสำนักพิมพ์ด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ

  6. pat พูดว่า:

    อืม น่ามี feed สรุปหนังสือเมืองไทยเนอะ เพราะผมอยากรู้เรื่องเยอะๆแต่ดันไม่ได้รักการอ่านเท่าทั่นเม่นเลย 🙁

  7. ไอ่โอ๊ส พูดว่า:

    นานแล้วนะ เพ่เม่น…ไม่มีเรื่องใหม่ให้อ่านเลย..
    =..= หุดหิด..ๆๆๆๆ

  8. กอล์ฟ79 พูดว่า:

    ไอ้เม่นอัพเดทมั่งสิโว๊ยอย่าอู้

  9. jicktui พูดว่า:

    ชอบคำนำหนังสือคุณหนูดีเหมือนกันคะ คุณแม่อีคิวดีเลยมีคุณลูกไอคิวสูง

  10. วิทูร พูดว่า:

    สวัสดีครับพี่เม่น ไม่ได้เจอและคุยกับพี่เม่นนานมากเลยครับ

    หวังว่าพี่เม่นจะสบายดีนะครับ … วิทูร

    ปล. ตอนนี้ ผมน้ำหนักเหลือ 65 กิโลกรัมแล้วนะครับ

    iMenn อ๊ะ สวัสดีครับ ยินดีด้วยคร้าบที่ลดความอ้วนได้ พี่เองยังอีกยาวไกล 😀

  11. โกศล พูดว่า:

    ยังไม่ได้อ่านสักเล่มที่ว่ามานี้

    แต่ปีนี้ได้อ่านหนังสือของ พงษ์ ผาวิจิตร เรื่อง ธุรกิจ 3.0 ดีมาก ได้ความรู้ในเรื่องราวการทำมาหากินในโลกยุคอินเตอร์เน็ตเป็นใหญ่มากจริงๆ

    ว่าจะไปหา X-Ray คนไทย 360 องศา มาอ่านบ้างแล้วล่ะ ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ

  12. poster พูดว่า:

    แนะนำซะ
    ผมอยาก
    กระโจน
    เข้าไปซื้อเลย
    ทีเดียว

  13. พี่เม่นครับ ถ้าอยากเริ่มทำธุรกิจ พี่เม่นว่าควรอ่า่นหนังสือเล่มไหนบ้างครับ

    หรือพี่เ่ม่นว่ามีหนังสือเล่มไหนไหม ที่ทำให้พี่เม่นมาถึงจุดนี้ได้

    ว่างๆช่วยแนะนำด้วยนะครับ….ขอบคุณครับ

    1. iMenn พูดว่า:

      อืม ถามอย่างนี้ตอบยากครับ มันไม่มีสูตรสำเร็จ
      ถ้าที่พี่ชอบ ก็ Good to Great ครับ หาไม่ยาก มีแปลไทยด้วย, กับ Your Money or Your Life (จะเลือกเงินหรือชีวิต) ซึ่งทำให้เราเข้าใจเรื่องการแลกเปลี่ยนของเงินกับความสุข
      ฯลฯ

      ส่วนหนังสือที่ทำให้มาถึงจุดนี้ ก็มีมหาศาลมากเลยครับ ทั้งวรรณกรรมเยาวชน, นิยาย, ปรัชญา, พุทธศาสนา ฯลฯ ถ้าให้นึกเลย ที่ชอบก็ ปรัชญาชีวิต (คาริล ยิบราน), ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน (มีบล็อกไว้ครับ), พุทธรรม ฯลฯ กับสิ่งสำคัญคือประสบการณ์ชีวิตที่เราได้ไปลองทำจริงๆ เจอจริงๆ น่ะครับ

      1. …จะลองไปหาอ่านดูครับ …
        ช่วงนี้ก็อ่านชีิวิตพี่เม่นไป สงสัยไปก็เลยถามไปเรื่อย ^^
        เพราะเชื่อมั่นโมเดลชีวิตพี่เม่น เป็นโมเดลในอุดมคติของผมเลย
        กะจะเก็บมาเป็นเเรงบันดาลใจ^^