เรื่องขี้ๆ

การตัดสินใจในชีวิตนั้นมักมีแต่เรื่องขี้ๆ
ขี้เกียจ / ขี้กลัว / ขี้สงสัย / ขี้คร้าน ฯลฯ

ความลังเลสงสัยไม่เข้าใครออกใคร ความมั่นใจยึดติดก็เช่นกัน

บริษัท Lutron ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์คอนโทรลระบบไฟฟ้า โทรมาสัมภาษณ์ และบอกว่า สนใจ, เค้ากำลังหาคนที่จะมา Train กับเค้า และส่งไปทำงานเชิง Sale Engineer ในที่ต่างๆ เช่นในเอเชีย อาจจะทำงานเมืองไทย รับเงินฝรั่ง บินไปๆมาๆ ฯลฯ (แต่บริษัทไหนก็ย่อมพูดได้ ตราบใดที่ยังไม่ต้องเซ็นต์สัญญาและออก Work permit ให้) กระนั้นก็ต้องรอเวลาซักระยะหนึ่งจึงจะให้คำตอบว่า รับไม่รับ

ความคิดที่เคยชัดเจนว่า จะไปอยู่ฟลอริด้า เป็นชูชิเชฟ ทำงาน 2-3 ปี แต่งงาน (กับใครยังไม่รู้ แต่เห็นว่าแม่จะหาให้ .. 🙂 แล้วหาทางเปิดร้านอาหาร หาเงินซักก้อนกลับไปฉีกทิ้งที่เมืองไทย ก็เลยต้องมาสั่นคลอนอีก

จะเลือกทางไหน? จะพนันกับชีวิตไหม?

เหมือนกับคนที่บอกว่า ไม่เชื่อและไม่ดูหมอดู ก็มักจะต้องงมงายกับศาสตร์อะไรซักอย่าง (เช่นพวกจิตวิทยา ทายนิสัย หรือ งมงายกับวิทยาศาสตร์ / เศรษฐศาสดร์ว่าด้วยการพยากรณ์ ฯลฯ), เหมือนกับผู้ชายที่บอกว่า ไม่กินเหล้า ไม่เจ้าชู้ ลึกๆแล้วก็มักหาหน้ากากอื่นมาบัง (แทนการกินเหล้า) หรือมองผู้หญิงในนิตยสารมากกว่าปกติ ฯลฯ

ผมบอกว่า ผมไม่เล่นการพนัน ชีวิตผมจึงมักเต็มไปด้วยการพนัน และการเดิมพัน

+ I-20 จะหมดอายุสิ้นเดือนนี้ ผมต้องลงเรียนต่อ หรือหาที่เรียนที่ไหม่? (เรียนภาษา/เรียนตรี/เรียนโท; ที่ไหน?)
+ สัญญาเช่าบ้านของแม่จะหมดสิ้นเดือนนี้ ถ้าผมไม่ย้ายไปอยู่ แม่กับเพื่อนแม่จะเปลี่ยนที่ ผมต้องตอบแม่ว่าจะไปฟลอริด้าหรือไม่ในสิ้นเดือนนี้?
+ ถ้าผมไม่ทำซูชิเชฟในช่วงนี้ ทางร้านจะหาคนอื่น
+ ถ้าผมรองานบริษัทแล้วไม่ได้ จะทำอย่างไรต่อ?
+ ถ้าไปอยู่กับแม่ ได้งาน จะเอาไหม?
+ โมเดลธุรกิจครอบครัว น่าจะเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าทำในอนาคตมากที่สุดหรือเปล่า (ผมคิดอย่างนั้น) เพราะ คนในโมเดลนี้ เป็นคน มากกว่าเป็นฟังก์ชั่น และธุรกิจแบบนี้ การทำงาน ค่อนข้างสัมพันธ์กับความหมายของการดำรงอยู่ มากกว่า การทำงานบริษัทใหญ่ๆ เป็นระบบ
+ ผมมีความสามารถ หรือสามารถพัฒนาความสามารถในการจัดการธุรกิจครอบครัวได้หรือเปล่า (ต้องการความละเอียดอย่างมากสำหรับการเปิดร้านอาหาร/ต้องการความสามารถในการบริหารความสัมพันธ์ระยะยาว – ซึ่งผมไม่มี) ในขณะที่การทำงานบริษัท ผมน่าจะพร้อมมากกว่า
+ การทำงานบริษัทฝรั่ง และ Deal กับลูกค้าคนไทย เรียกว่าการขายชาติหรือเปล่า หรือใช่ และถูกต้องแล้ว เวลาไทยรวย เราก็ไปปล้นพม่าเหมือนกัน?
+ การทำงานกับบริษัทนี้ จะสัมพันธ์กับเป้าหมายในอนาคตอย่างไร? (ในขณะที่ซูชิเชฟ จะมีชีวิตที่เรียบง่าย และสัมพันธ์กับการทำธุรกิจของตัวเองในอนาคต ที่โตมาจากฐานล่างสุด)
+ การทำงานบริษัท จะได้ทำงานกับฝรั่งมากกว่า และได้เดินทางมากกว่า (แต่ไม่ควรมีครอบครัว)
+ ชูชิเชฟ เหนื่อยแรง, งานบริษัท เหนื่อยสมอง
+ ถ้าจะเป็นชูชิเชฟ ต้องตัดเล็บมือขวา (ที่ใช้เกากีต้าร์) และงานจะไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
+ การทำงานบริษัท จะได้ Work permit ซึ่งแม้จะโดนหักจากเงินเดือน แต่ก็คุ้มกว่าการเสียค่าเรียนเพื่อรักษา I-20 อย่างปัจจุบัน (ผมเรียกว่า ค่าเช่าอากาศอเมริกันหายใจ – ถูกสุดเดือนละสองสามหมื่นบาท)
ฯลฯ

ความคิดยังไม่เป็นรูปร่างมากนัก แต่ก็ตัดสินใจกับเรื่องทั้งหลายนี้ว่า

เอาวะ ไม่ทำซูชิเฟตอนนี้ละกัน อยู่ที่เดิม และรอกงล้อรูเล็ตของชะตากรรมเวียนมา
ตอนนี้ก็เรียนปริญาตรีวิชาพวกบัญชี/บริหาร/เศรษฐศาสตร์ พื้นฐานไปก่อน พัฒนาการพูดภาษาอังกฤษให้ดีกว่านี้ (ผมคิดว่าความรู้ของคนเอเชียส่วนใหญ่นั้น มากพอสำหรับการทำงานอยู่แล้ว แต่การสื่อสารกับฝรั่งยังสู้เด็กประถมไม่ได้เท่านั้นเอง) สัญญาเช่าบ้านที่อยู่ตอนนี้จะหมดสิ้นปี ถ้าถึงตอนนั้นยังไม่ได้งานซักที่ ก็ค่อยย้ายละกัน

สุภาษิตจีนเขาว่า

ความพยายามเป็นของคน
ความสำเร็จเป็นของฟ้า

(ดังนั้นอย่าพยายามให้มากนักเรยเนาะ :P)

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. a o y พูดว่า:

    ชอบสุภาษิตจัง ขอถามนิดนึงนะค่ะ ถ้าเป็นงานที่คุณรักนะเหนื่อยมันก้อจะไม่เหนื่อย … wish u lucky in everythig

  2. 9sword พูดว่า:

    =v= ชอบภาพประกอบ
    ดูแล้วไม่เ้ข้าใจ แต่ได้ิิอารมณ์ดีเหอะ^^

    1. iMenn พูดว่า:

      ภาพประกอบ เป็นการทำล้อเลียนรูปปั้น “นักคิด” ของออกุสต์ โรแดง น่ะครับ ลองดูรายละเอียดที่ WikiPedia ได้ครับ

      มันฮาเพราะว่าเอารูปปั้นนักคิดผู้ยิ่งใหญ่มานั่งขี้น่ะครับ ทั้งลึกซึ้งทั้งฮา 🙂