บันทึกของสัปดาห์ที่แล้ว

ดูท่าว่า ถ้อยคำก่นด่า และทวงถาม จะเป็นแรงบันดาลใจอันใหญ่หลวง ให้ไอ้เม่นมานั่งพรมนิ้วอวบๆบนแป้นพิมพ์ดีดนี่อีกครา ซึ่งก็ออกจะละอายมิน้อย เมื่อคิดว่า เรื่องที่จะบันทึกนี่มันเป็นเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์แล้วนี่หว่า

สุดสัปดาห์ที่ไปเที่ยวบ้านไอ้บู รีสอร์ทกาซะลอง เมืองกาญจนบุรีค้าบ

คืนวันศุกร์ : ไปนอนค้างบ้านไอ้วิทย์ เนื่องจากยัยโอ๋ไม่อยากกลับเข้าบ้าน และไอ้วิทย์ไม่ไว้ใจว่า ไอ้เม่นมันจะสามารถตื่นมาทันเวลานัด
เช้าวันเสาร์ : นัด 8 โมงเช้าที่เกษตรฯ ไอ้โอมาตรงเวลาเหมือนเดิม (..ตลอดสิบกว่าปี – มันไม่รู้จักปรับปรุงตัวซะเลยโว้ย) ตามมาด้วยไอ้วิทย์ ไอ้เม่น ยัยโอ๋ ไอ้บู ไอ้ฮอล์ล และปิดท้ายด้วยไอ้หมู ที่ดันพาแฟนของมันมาด้วย (ชื่อน้องอุ๊)

ไอ้โอ “เฮ้ย ไอ้หมู … ไม่ใช่คนเดิมนี่หว่า”
ไอ้เม่น “ไอ้หมู แล้วน้องอีกคนที่พามาคราวก่อนล่ะ เค้าไม่มาหรอ”
ไอ้ฮอล์ล “ไอ้หมูทำไมเข้าห้องน้ำนานวะ โทรหาอีกคนหรอมึง”

ฯลฯ

ประโยคเหล่านี้เป็นคำทักทายตามมารยาท สำหรับเพื่อนที่ดันพาแฟนมา แน่นอนว่า ทุกคนก็รู้ว่าอำกันเล่น แต่มันทำให้เลิกรากันหลายคู่ได้จริงๆนะเออ ฮ่า ฮ่า

จนเก้าโมงกว่า จึงได้ออกจากกรุงเทพ และแวะสถานที่ใสๆ ที่เพื่อนวิศวะคงไม่คุ้น เช่น วัดบนเขา แพริมน้ำ ถ้ำหินงอกหินย้อย ฯลฯ จนกระทั่งถึงบ้านไอ้บูตอนค่ำๆ

และเนื่องจากไอ้เม่นเหนื่อยมากๆที่ดันเผลอปีนเขาแบบหนุ่มๆ มันจึงไม่ค่อยจะมีแรงทั้งเล่นกีตาร์ และ กินเหล้า คราวนี้เลยได้แต่นั่งดูดาว และคุยกัน

ไอ้วิทย์ว่าอาจจะแต่งงานปีหน้า (ความจริงที่บ้านมันอยากให้แต่งปีนี้ แต่มันบอกว่าเร็วไป) ยัยโอ๋กำลังจะมาเป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์ ยังไม่คิดจะมีแฟน เพราะเธอบอกว่า “ยังอยากเที่ยว อยากจัดทัวร์ เป็นครูสอนแอโรบิค(ชะช้า…) และทำอะไรต่อมิอะไรอีกมาก-อยู่ ” ไอ้โอยังไม่คิดจะทำงานวิศวะ (แม้ว่าบริษัทเพื่อนคนหนึ่งจะให้ทุนไปอเมริกา แต่มันเสือกเกลียดอเมริกา) เลยเป็นครูสอนเด็กมัธยมต้นอยู่ ด้วยเหตุผลว่า เด็กพวกนี้ยังมองโลกด้วยสายตาที่บริสุทธิ์

ไอ้เม่น “ไอ้ห่าโลลิค่อน แล้วมึงไม่สอนเด็กมัธยมปลายด้วยวะ”
ไอ้โอ (มาดเท่ๆ ใสๆ) “กูไม่ค่อยชอบเด็ก ม.ปลายว่ะ เค้าไม่ใสเหมือนเด็กแล้ว แต่ก็ยังไม่โต”
ไอ้หมู “อะไรวะ แล้วทีเด็กมหา’ลัยล่ะมึง กูเห็นมึงก้อร่อก้อติกอยู่”
ไอ้โอ (ใบหน้าเปลี่ยนมาเป็นกรุ้มกริ่ม) “เฮ้ย ไอ้ห่า … ก็เด็กมหา’ลัยเค้าโตแล้วนี่โว้ย ถือว่าเป็นอีกรสนิยมนึง”

Boo's House
รูปเมื่อ 3 ปีก่อน ณ บ้านไอ้บู (บ้านไม้ 1 ชั้น เฟอร์นิเจอร์ครบ กลิ้ง 3 รอบก็ทั่วบ้านแล้ว)

แล้วก็คุยกันถึงเรื่อง 3 ปีก่อน ที่เพื่อนๆมากันเต็มล้นบ้านหลังนี้ ตอนนั้นคนเยอะมากจนใครใคร่ทำอะไรก็ทำไปเถิด มีวงเล่นไพ่ มีวงเล่นเกมส์ขำๆ มีวงกีต้าร์ มีวงเหล้า ไอ้หมูเมานอนตาย ไอ้ชูกระดกเพียว แล้วก็ตายมั่ง ยัยกิฟท์ตอนนั้นกำลังเฮิร์ท กินเหล้าเมาแล้ววิ่งลงสระน้ำด้านหลัง ไอ้ฮอล์ลเลยไปคว้าไว้ ยัยกิฟท์เลยมาอ้วกในห้องน้ำแทน ให้ไอ้เม่นมาล้างอ้วก หลังจากนั้นก็เมาถึงขั้นทำให้นักศึกษาแพทย์วิทย์กับเด็กวิศวะอย่างไอ้บู หามเธอไปส่งโรงพยาบาลกลางดึก และนอนพัก 1 คืน

โอ้ววว ความแก่ทำให้นึกถึงความหลัง และทำให้อยากกินเหล้าและด่ายัยกิฟท์อีกจัง โฮ่ โฮ่ (อยากรู้รายละเอียดการนินทา กรุณาวางมัดจำก่อน 1 มื้อ อิอิ)

แต่คราวนี้ไม่มีวงเหล้าวินาศสันตะโรเยี่ยงนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น เราจึงขับรถกลับมากรุงเทพฯอย่างเรื่อยๆ เอื่อยๆ ด้วยความแจ่มใส แวะหาอะไรกินตามทางบ้าง ทั้งที่ยัยโอ๋บอกว่า อย่ากลับเย็นนัก เพราะเธอต้องมาขึ้นรถที่หมอชิตเวลาบ่ายสอง (เพื่อเดินทางต่อไปเพชรบูรณ์ อีก 6 ชั่วโมง)

กระนั้น ความโอ้เอ้ กับความรถติด (บวกกับความร้อน ที่ทำให้เรารู้สึกว่า ช่างซวยซะเหลือเกิน) ก็มหาศาลจนทำให้เธอขึ้นรถเที่ยวที่เธอคาดไว้ – ไม่ทัน เลยต้องรอคันต่อไป

…..

ค่ำๆวันนั้น ยัยโอ๋โทรศัพท์มาหาผม บอกว่า เธอเพิ่งผ่านรถบัสคันที่เธอเกือบจะได้ขึ้นไปนี่เอง..

รถนั้นคว่ำอยู่พร้อมๆกับรถอื่นๆอีกเกือบยี่สิบคัน พร้อมๆกับที่ข้างถนน เต็มไปด้วย ร่างของคนบาดเจ็บ กับศพอีกจำนวนหนึ่ง

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

ขณะที่กำลังโอภาปราศรัยในเรื่องของความรัก ชาย-หญิง ได้ที่ ไอ้วิทย์ ที่วันนี้ประกาศเลื่อนขั้นตัวเอง จากตำแหน่ง King of Joke มาเป็น Lord of the Joke (เพื่อความร่วมสมัย) ก็รู้สึกว่า ต้องกล่าวมุขเฉลิมฉลองตำแหน่งใหม่ซะหน่อย

ไอ้วิทย์ “เฮ้ย พวกมึงรู้มั้ย ผู้หญิงเนี่ย ก็เปรียบเหมือนตีน..!”
แล้วบัดนั้น ทั้งวงที่กำลังเฮฮาอยู่ ก็พลันเงียบกริบ … ก่อนหน้านี้มันปล่อยมุขตลกฝืดมาหลายมุขยังพอให้อภัยได้ แต่มาเล่นมุขพาดพิงสิทธิสตรีเช่นนี้ “ไอ้หมู”เห็นว่า .. มันม่ายถูกต้อง!!

ไอ้หมู “เฮ้ย มึงพูดอย่างนี้ไม่ถูก มึงก็รู้ว่า กูน่ะ ให้เกียรติผู้หญิงแค่หนายยย” ก่อนจะหันหน้าไปทางแฟนสาว ที่กำลังงอนติดพัน

ไอ้วิทย์ “เฮ้ย มึงฟังให้จบก่อนโว้ย ผู้หญิงน่ะ เปรียบเหมือนตีน..”

“แต่ผู้ชายน่ะ เปรียบเหมือนลูกฟุตบอล ยอมให้เธอจะเตะไปทางไหนก็ด้ายยยย”

หมายเหตุ : สำหรับเพื่อนที่ว่างๆ สนใจจะไปถล่มเว็บบอร์ดใหม่ที่ไอ้เม่นเพิ่งเซ็ท ขอเชิญที่ http://www.giftfromthai.com/friends/yabbse ได้เลยขอรับ ลองสมัครสมาชิกดูนะขอรับ

จาก: buija

Test

6 เม.ย. 2545 , 09:22 น.

จาก: buija

เมื่อกี้มัน hang อ่า แหะ แหะ

แค่จะบอกว่า พี่โอ๋คลาดแคล้วเพราะทิดเม่นแน่เรยยย อิอิ

By the way , ขอค้านที่ว่า ผู้หญิงจะเตะลูกฟุตบอล—เพราะสมัยนี้ต้อง กระทืบ แทนเตะเจ้าค่ะ 5555

6 เม.ย. 2545 , 09:24 น.

จาก: เดอะกาฝากไดอารี่
โฮมเพจ: http://www.theballball.com

คนเราถ้ายังไม่ถึงที่ตาย ก็ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ อุอุ แบบนี้เรียกได้ว่า พวกทั่นพี่เม่น เป็นผู้มีพระคุณ ช่วยชีวิตพี่โอ๋เค้าไว้… ต้องตอบแทนด้วย 1 มื้อใหญ่ คับ

ปัจจุบันนี้ ไอ้บอล ก็เป็น “ลูกบอล” กลมๆ ให้สุดที่รักเตะเล่นไปมาอยู่แล้ว

6 เม.ย. 2545 , 15:09 น.

จาก: เทพ
โฮมเพจ: http://thep2.thaidiarist.com

โอ้….ยังมีคนที่ไม่เลทอยู่อีก
ผมเองก็พัฒนามาเป็นเลทสักครึ่ง-1hrแล้วเรียบร้อย

6 เม.ย. 2545 , 19:02 น.

จาก: Gung
โฮมเพจ: http://gung.evilgodzilla.com/

เหอๆ ลงท้ายได้สยองดีมาก

มันสอนให้เรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่ดีไว้ แม้จะพลาดรถก็อย่าโวยวายเพราะอาจจะโชคดีก็ได้ เลยต้องพลาด..
เอื๊อกก

6 เม.ย. 2545 , 21:09 น.

จาก: Golf
โฮมเพจ: http://golf_diary.thaidiarist.com

ทำไมผมไปก่อนเวลาอยู่คนเดียวอ่ะ

6 เม.ย. 2545 , 23:57 น.

จาก: แจ๋วส้ม
โฮมเพจ: http://littlehen.evilgodzilla.com

อันว่า ลูกฟุตบอล ก็มีหลายประเภท อะนิ
ฟุตบอลหนัง ฟุตบอลพลาสติก
เอ..แล้วมีแบบไหนอีกมั้งอะ
อืมๆ ช่างเหอะๆ ขี้เกียจนึกแล่ะ
คืออยากจะบอกว่า…
ถ้าไปเตะเอาลูกฟุตบอลไม่ค่อยดี
ก็พาลจะทำให้เท้าเจ็บได้เหมือนกันอ่า

7 เม.ย. 2545 , 01:25 น.

จาก: aoaey
โฮมเพจ: http://aoaey.thaidiarist.com

เพ่เม่นรู้ป่าว คนแก่เท่านั้นที่คุยกันถึงเรื่องเก่า ๆ
เพราะฉะนั้น ไดของวันนี้ได้บ่งบอกได้ว่า
เพ่เม่นแก่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ง้านเอ้ต้องเรียกใหม่เป็นปู่เม่นถึงจะถูก คิคิ

8 เม.ย. 2545 , 00:18 น.

จาก: SpygirL

กรี้ดดด อ่านแล้วเป็นห่วง กลัวน้องเม่นจะกลิ้งหล่นจากเขา แหม ลืมวันลืมเวลาเหรอจ๊ะ รู้น่าว่ายังมีไฟแต่น้ำหนักไม่ให้ เอ้ย ไม่ใช่ แต่ก็ระวังสุขภาพตัวเองหน่อยนะ อย่าทะเล้นเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ไป คิคิคิคิคิ ป้าล้อเล่นน่ะ ^__-

8 เม.ย. 2545 , 08:46 น.

จาก: pY

เรื่องเก่า..เล่าหนนึง..ก็ใหม่เองแหละ
เรื่องเก่าๆของคนคนหนึ่ง…จะเป็นเรื่องใหม่ๆของอีกคนเสมอ…
ซตพ…เล่าเรื่องใหม่..ยังไม่แก่…

9 เม.ย. 2545 , 12:57 น.

จาก: ซาบรุ๋ย

พี่เม่นจ๋า

บุ๋ยคิดว่า งวดหน้าพี่เม่นต้องเขียนว่า ” บันทึกของสัปดาห์ที่แล้ว-แล้ว” นะเจ้าคะ เอิ๊กกก

11 เม.ย. 2545 , 21:05 น.

จาก: Keng

Good ole time…Like yesterday…But pass so soon.

12 เม.ย. 2545 , 03:20 น.

จาก: พี่โอ๋

เฮ้ยคนข้างบนน่ะ เก่งไหนวะ ใช่ไอ้เก่งพระบิดหรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ขอแอบกัดหน่อยเหอะ เหอ เหอ

ไหงมาปล่อยไก่แถวนี้อ่ะคะ “Good OLE time ”
สงสัยชอบกินโอเล่มากแน่เลย…
“But pass so soon.. . ไม่อยากให้มันผ่านไปเร็วนักก็อมอีกเม็ดสิคะ อิ อิ

ฟังเม่นเล่าบรรยากาศเมื่อสามปีก่อน เหมือนหนังฉายใหม่ในความทรงจำ ชีวิตนักศึกษา ไม่ว่าสถาบันไหน พี่ว่ามันก็ครือๆกันแหล่ะเนอะ

ว่าตะว่า แอบมาอินเทรนย้อนความหลังเหมือนนิหว่า..

12 เม.ย. 2545 , 04:36 น.

จาก: Mrs.Rose

แวะมาอ่านแล้วอ่านอีก จากที่ไม่คอมเมนท์อาไรไว้ ก็ยังไม่มาอัพเสียที มาวันนี้เลยเขียนอะไรไว้สักหน่อย ให้เวลาอีก 1 อาทิตย์ ถ้าเลยจากนั้นแล้วยังไม่อัพ…อืมม ก็ไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกัน อิอิ

12 เม.ย. 2545 , 13:50 น.

จาก: ป้ากอล์ฟ

น่านเดะ หายหน้าหายจมูกไปเชียว มา ๆ ๆ ๆ กลับมาให้จับประแป้งซะดี ๆ วันนี้วันสงคราม เอ้ย…สงกรานต์

13 เม.ย. 2545 , 12:41 น.

จาก: Keng

To pOh+

Im sorry. But I think OLE is a slang means good things in the past, such as Good OLE Henry.
I know whats “OLD” means and know how to spell it krub. 🙂

14 เม.ย. 2545 , 05:40 น.

จาก: โอ๋

กึ๋ยส์…หน้าแตกเลยตรู
มะได้ว่า ว่าคุณไม่มีความรู้ แต่เรื่องพิมพ์ผิดมันเกิดขึ้นได้บ่อยๆนิคะ
สงสัยว่าจะไม่ใช่เก่งที่เรารู้จักแฮะ… เก่งเพื่อนเรามันไม่สุภาพหยั่งงี๊นิหว่า.. ขออภัยคุณเก่งตามท้องเรื่องนี้ด้วยละกัน

14 เม.ย. 2545 , 13:50 น.

จาก: ใจ

เฮ้ย เม่น กลับมาเขียนบันทึกหน้าต่อไปได้แล้ว เข้ามาหลายรอบแล้วก้อยังไม่มีอันใหม่ซะกะที ย้ายตัวอ้วนๆของแกมาเขียนด่วน
ปล.ถึง โอ๋เพื่อนร้าก แกจะปล่อยไก่ หน้าแตกตั้งแต่ม.ปลายยันตอนแก่เลยหรือจ๊ะ แต่ถ้าไม่ปล่อยไก่ก้อไม่ใช่โอ๋ตัวจริงซิเนอะ by the way ดีใจด้วยนะที่แกรอดตายไม่เป็นอะไร รักษาตัวด้วยละกัน

15 เม.ย. 2545 , 08:02 น.

จาก: GOLFee
โฮมเพจ: http://thaidiarist.com/diary/GOLFee

สวัสดีปีใหม่ไทยครับพี่เม่น

” เค้าไม่ใสเหมือนเด็กแล้ว แต่ก็ยังไม่โต ”
ประโยคนี้มันคุ้นๆนะครับ คล้ายๆกับว่าจะมีเด็กม.ปลายสักคนนึงร้องเพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษ

17 เม.ย. 2545 , 00:00 น.

จาก: Jandara
โฮมเพจ: http://thaidiarist.com/diary/Jandara

แวะมาเยี่ยมจ้า หวังว่าเม่นสะบายดีนะ

มุขลูกฟุตบอลนี่จะประมาณมุขที่ผู้ชายบอกว่าเมียต้องคลานเข่าเข้ามาหาทุกครั้ง ไม่ใช่อะไรหร็อก คือ พอเมียขึ้นเสียงทีไร วิ่งเข้าไปหลบใต้เตียงทุกที เฮ้..ผู้ชายกลัวเมียจงเจริ๊ญ…

18 เม.ย. 2545 , 15:21 น.

ความเห็น