เรื่องราวของคนบ้า : A beautiful mind และ Veronika Decides to Die

28 มีนาคม 2002 02:03 น. บันทึก ,

จนกระทั่งนึกได้ว่า ไอ้หนังสือที่อยากจะเขียนถึงเนี่ย (Veronika Decides to Die) ไอ้เก๋มันตบไปอ่านโว้ย …
เวลาก็ล่วงมาหลายวันทีเดียว…

และระหว่างนั้น ก็ไม่ได้มาก๊อกๆแก๊กๆกับบันทึกบนเน็ทนี้…เสียนาน

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ รู้สึกมีความสงบสุขมาก คงเป็นเพราะตัดสินใจให้ชีวิตได้ชัดเจนขึ้นแล้วละกระมัง – ทำงาน พักผ่อน และเรียนรู้ชีวิต
เลยฝันเฟื่องเพิ่มอีกแล้วว่า ทำเพลงของตัวเองให้มันดีกว่านี้หน่อย แล้วเอาไปเดินเปิดหมวก และ ขายเป็นซีดีดีกว่า
ฮ่า ฮ่า .. (นี่ถ้าเป็นธุรกิจ ก็เป็นธุรกิจที่เจ๊งตั้งแต่ยังไม่เริ่มคิด Cash Flow เลยนะเนี่ย)


หนังสือเรื่องเวรอนิกาขอตาย (Veronika Decides to Die )

veronikaหลังจาก พร่ำเพ้อถึงหนังสือดีๆอย่างขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน แล้ว ก็มีพี่ๆน้องๆหลายคนแนะนำให้ไปหาหนังสือโดยผู้เขียนคนเดียวกัน ที่ชื่อ วอโรนิกาขอตาย นี้มาอ่าน
อ่านจบก็พบว่า ไม่เลวเลยทีเดียว แม้ยังไม่หดหู่เท่าที่คิด (รู้สึกนักเขียนคนนี้จะเขียนอะไรได้มีความหวังในชีวิตซะเหลือเกิน ขนาดเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องของคนกำลังฆ่าตัวตายนะเนี่ย)

เรื่องนี้มีคำสวยๆอยู่มาก แต่เนื่องจากหนังสือไม่อยู่ซะแล้ว คงขอพูดคร่าวๆละกัน

เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อ เวรอนิกา เธอมีพร้อมทุกอย่าง มีครอบครัวอบอุ่น มีการศึกษาที่ดี มีหน้าที่การงานดี มีฐานะ มีแฟน ฯลฯ แต่ก็ทำให้เธอคิด – เธอรู้หมดแล้วว่าชีวิตจะต้องดำเนินต่อไปอย่างไรบ้าง เรียนจบ-ทำงาน-แต่งงาน-มีลูก-เลี้ยงลูก-ตาย และเธอเห็นว่า มันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน

เลยฆ่าตัวตายซะ ในห้องของเธอ ..

[เนื้อเรื่องช่วงนี้กล่าวถึงความเบื่อหน่ายในชีวิตได้อย่างน่าสนใจ ความเบื่อหน่ายของคนที่มีความเป็นอยู่ที่ดี แต่รู้สึกว่า ทุกอย่างมันช่างว่างเปล่า]

แต่แล้วก็กลับมีคนมาช่วยเธอไว้และส่งไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า (ผู้คนถือว่าเธอบ้า เพราะเธอฆ่าตัวตาย)
เธอไม่ตาย แต่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 1 สัปดาห์

เรื่องราวหลังจากนั้นคือท่วงทำนองของความบ้าต่างๆนาๆ และความเป็นมาของคนบ้าคนอื่นๆ ที่แน่นอนว่า เค้าก็คือคนทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ดันไม่เคารพกฎเกณฑ์บางอย่าง หรือ เชื่อ เหมือนกับคนทั่วๆไปเชื่อ เท่านั้นเอง

เวรอนิกาพบกับผู้คนต่างๆ พบกับความคิด และ ความเชื่อ ต่างๆ และพบกับใครบางคน ที่ต่อมา ความรู้สึกนั้นได้กลายเป็นความผูกพัน และ ความรัก

จนเรื่องราวมาจบลงที่ความเข้าใจในความหมายของชีวิต ของเวรอนิกา – ความเข้าใจที่ว่า ชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม และ รื่นรมย์ – ในวันที่เธอจะต้องตายจากโลกนี้ไปจริงๆ

ภาพยนต์เรื่อง A beautiful mind

A beautiful mind

แม้เวทีออสการ์ จะถูกปกครองด้วยเงาแห่งการเมืองอเมริกัน และ รับใช้อำนาจต่างๆมากไปทุกทีแล้ว (บางคนอาจแย้งว่า มันเป็นตั้งนานแล้วโว้ย) อย่างเช่นที่เค้าบอกกันว่า ปีนี้รัฐอเมริกัน ต้องการสร้างความอบอุ่น (A beautiful Mind) มากกว่า ความยิ่งใหญ่ (Lord of the ring) หรือในกรณีดาราผิวสีได้รับรางวัล .. ทั้งๆที่เรื่องก่อนหน้านั้นเค้าเล่นดีกว่าตั้งเยอะ แต่ไม่เคยได้ ฯลฯ

แต่อย่างไร หนังที่ได้รับรางวัลออสการ์ ก็ไม่เคยเป็นหนังห่วยหรอก รวมถึงหนังอบอุ่นเรื่องนี้ ที่กระผมคิดจะเขียนถึงตั้งแต่หลายวันก่อนประกาศรางวัลออสการ์ด้วยนา

ภาพยนต์ที่ดัดแปลงจากเรื่องจริงของชีวิตของจอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ แห่งมหาวิทยาลัยพริ้นซตั้น ผู้บุกเบิก “คณิตศาสตร์แนวใหม่” ในช่วงทศวรรษที่ 1950

สิ่งที่ไตเต้ลหนังบอกเราก็คือ เค้าเป็นอัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์ผู้กระหายในความสำเร็จของชีวิต และในช่วงสงครามโลก เค้าก็ได้ไปพัวพันกับโครงการลับสุดยอดของอเมริกาในด้านการถอดรหัสของศัตรู แต่แล้วเหตุการณ์กลับมาพลิกผัน เมื่อจิตแพทย์คนหนึ่งมากล่าวว่า ทั้งหมดนั้นไม่มีอยู่จริง เหตุการณ์และผู้คนต่างๆนั้น เค้าเป็นคนคิดไปเองทั้งหมด

ทั้งหมดเป็นความฝัน หรือ จริงๆแล้วเค้ากำลังตกอยู่ในหลุมพรางของใคร อันนี้ก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าติดตามดี (หลายเว็บที่เฉลยประเด็นนี้ก่อนนี่ แม่งน่าเตะเหมือนกันนะเนี่ย)

แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจ และ ตื้นตันใจนั้น ผมคิดว่า คือการคลี่คลายเนื้อเรื่องในตอนท้ายมากกว่า

ภาพยนต์อาจจะคลี่คลายเรื่องราว และ ความยุ่งยากต่างๆนาๆด้วยการบอกไปเลยว่า อีก 30-40 ปีต่อมา เหตุการณ์จะเป็นเช่นไร… แต่สำหรับชีวิตจริง เค้าและคนรักของเค้า จะต้องเจอกับความเลวร้ายนี้ ซ้ำๆซากๆ ทุกๆวัน เป็นเวลา 30-40 ปี

พวกเค้าต้องอดทนกันซักแค่ไหนกันหนอ ?
และ ความรักของพวกเค้า มันยิ่งใหญ่ซักแค่ไหนกันหนอ ?

a beautiful mind

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

หลังจากดูหนังอันยิ่งใหญ่ของศิษย์เก่าพริ๊นซะตั้น นาย อ. ผู้ที่กำลังสนใจไปศึกษาต่ออเมริกาก็รู้สึกปลื้มปิติไปกับพระเอกรูปหล่อ และแม้ว่า มันเพิ่งจะไปทดสอบโทเฟลมาได้คะแนนสีร้อยกว่าๆ แต่มันก็…

“ไอ้เหี้ย พริ๊นซะตั้นนี่เท่จริงๆว่ะ กูไม่เข้าเบิร์กเล่ย์แล้ว เข้าพริ้นซะตั้นดีกว่า”

(หมายเหตุ: ข้อเท็จจริง : คะแนนโทเฟลเต็ม 667 นั้น ลิง สามารถสอบได้ประมาณสี่ร้อย , นาย อ. ได้สี่ร้อยกว่าๆ , ขั้นต่ำของมหาวิทยาลัยปลายแถวประมาณ 550 , คะแนนเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยระดับพริ๊นซะตั้นหรือเบิร์กเล่ย์นั้น ประมาณ 600-650)

girlfriendขณะที่เหล่าชายหนุ่มโสดตลอดกาล กำลังเดินเข้าไปดูรอบหนังในโรงภาพยนต์ ไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใด เมื่อรู้สึกตัวอีกที สายตาของทุกผู้ ก็ต่างจับจ้องที่ใบปิดภาพยนต์ เกิร์ลเฟรนด์ 14 ใสวัยกำลังเหมาะ (ลองนึกภาพตัวผู้ปริมาณมากๆ มายืนมุงดูใบปิดหนังรูปเด็กผู้หญิงวัยมัธยม ไม่อยากบอกเลยว่า ทุเรศมาก)

นาย ม. รีบชิงเบี่ยงประเด็นไปทางด้านการตลาด
“ไอ้เหี้ย มึงดูสิ เดี๋ยวนี้หนังแม่งจับกลุ่มเป้าหมายชัดเจนชิบหาย”
เพื่อนๆ “ช่าย ช่าย”

นาย ม. “เนาะ ไอ้ห่า กะว่า ลูกค้าแม่งต้องเป็นเด็กผู้หญิงมัธยม วัย 14”
เพื่อนๆ “ช่าย ช่าย”
นาย ป. (ต.ท.) “กับผู้ชายวัยสามสิบ”

ปล. ขอบคุณคุณ Maia เอื้อเฟื้อรูปใบปิดภาพยนต์ เกิร์ลเฟรนด์ , รูปปก Veronika Decides to Die และแก้คำผิด Veronika นะขอรับ

จาก: Maia

up แล้วก็มาเยี่ยมเลย .. ดีมะ

28 มี.ค. 2545 , 15:53 น.

จาก: Maia อยากทัก

ไม่ใช่ Veronika Decides to Die เหรอฮับ ..

แหะ แหะ แก้แล้วนะขอรับ ขอบคุณขอรับ

28 มี.ค. 2545 , 16:44 น.

จาก: Gung
โฮมเพจ: http://gung.evilgodzilla.com/

a beautiful mind น่าสนใจๆ

28 มี.ค. 2545 , 19:22 น.

จาก: เทพ
โฮมเพจ: http://ของเก่าเจ๊งบ๊งจนน่าทำเวบเอง

แม๊…ท่าจะต้องไปคว้าหนังสือทั้ง2เล่มนี้มาจากสัปดาห์หนังสือเป็นเล่มแรกๆเสียแล้ว

หนังดีๆหลายเรื่องก็ยังไม่ได้ดูเลย…เสียดายๆ

28 มี.ค. 2545 , 20:22 น.

จาก: GOLFee

Veronika ขอตาย ตอนนี้รู้สึกอย่างนี้เลย ………จะไปหามาอ่านครับ

28 มี.ค. 2545 , 21:30 น.

จาก: Garfield

อื้ม นั่นดินะ น้องเทพ ทำไม thaidiarist ,มันเจ๊งง บ๊ง บ่อยจัง

28 มี.ค. 2545 , 23:12 น.

จาก: เม่น
โฮมเพจ: https://imenn.com

เพิ่มเติมจากไอ้แมน

In real life, Nashs wife left him
because she couldnt stand his behavior. But she
didnt get married with someone else. They have been
friends for decades
In the film, Nash is much better than what he was in
many senses. He had a son with another woman before he
was married to Alicia. The film doesnt mention this
point. He was also accused about having sex with men.
Anyway, he got better and better from his sickness. In
late 2001, he and Alicia re-married.
The book on which the film is based was nominated for
Pulitzer prize few years ago. Its very well written
and interesting. You may like it but I dont know
whether its sold in Thailand. To me, Nash is not a
very good person but his life is extraordinay and his
wifes love is so real. She has loved him all the
time.

29 มี.ค. 2545 , 06:54 น.

จาก: เดอะกาฝากไดอารี่
โฮมเพจ: http://www.theballball.com

อุอุ เปลี่ยน e-mail แล้วแหละคับ เพราะว่ามองหาลู่ทางเปลี่ยนงานทำ เอิ๊กๆ

29 มี.ค. 2545 , 07:35 น.

จาก: Kate (==)

หายยยไปนาน ที่แท้ไปนั่งอ่านหนังสือนี่เอง
ส่วนเราก็ยุ่งๆกับหนังสือ (เรียน) กับหนังบางเรื่องที่ไม่มีเวลาไปดูเลยต้อง download เก็บไว้แทน

ไปทำงานต่อแล้วนะจ๊ะ รักษาตัวดีๆล่ะ

29 มี.ค. 2545 , 15:18 น.

จาก: Nooch
โฮมเพจ: http://up2gu.com/noochhh/

พี่เม่นจ๋า นุชกลับมาแล้ว
และอาทิตย์นี้แหละจะกลับมาจนครบเลย อิอิ

29 มี.ค. 2545 , 18:56 น.

จาก: O_A
โฮมเพจ: http://thaidiarist.com/diary/SenG_wA/

บิวตี้ฟูล มายด์ เจ๋งดี
นับถือ ภรรยาเค้าเลยย
พล๊อตเรื่องพลิกดีนะ

1 เม.ย. 2545 , 18:34 น.

ความเห็น