ห่างหายไปเสียหลายหน

ห่างหายไปเสียหลายหน
กับชีวิตวกวน จนใจหาย
บางครั้ง ดื่มด่ำ ความเดียวดาย
บางครั้ง กลับไม่ไร้ .. ผู้คน

เดินทางไปหาความคิด
ความคิดที่ตามติด ไปทุกหน
แต่ไม่อาจ ไขว่คว้า มายล
หรือเป็นเพราะ ร้อนรน เกินแรง

จมดิ่งไปในภวังค์
ผิดหวัง สมหวัง กลั่นแกล้ง
เหนื่อยนัก หยุดพัก เอาแรง
เพื่อยื้อแย่ง ความคิด ต่อไป

ช่วงนี้ชีวิตกำลังเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่ค่อยเร่งรีบ แต่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันของบางสิ่งบางอย่างที่กำลังรออยู่ บางสิ่งที่จะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ ที่กำลังรอความสำเร็จหรือล้มเหลว , การเรียนต่ออเมริกา ที่ความคืบหน้าหลายอย่างยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง , ความฝันเรื่องการแต่งเพลง ที่กำลังรอทีมทำเพลง ทำ Demo
และการเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับชีวิต ที่ยังไม่รู้ว่า จะเปลี่ยนเป็นเช่นใด

วันนี้ไอ้เก๋โทรมาปลุกแต่เช้า (เที่ยงสำหรับคนอื่น) ให้มากินเหล้ากันบ่ายนี้ เพราะมันเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาประมาณ 5 ปี (ถ้านับจากที่มันเริ่มจีบก็อาจจะ 7 ปี) ยังไม่รู้สาเหตุ แต่ฟังแล้วก็ใจหาย

มันเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของเพื่อนวิศวะ – ที่มีแฟน , และในบรรดาคนเหล่านั้น ถ้าถามว่าใครน่าจะได้แต่งงานกัน ผมก็ไม่ลังเลที่จะตอบว่า คู่นี้แหละ

window

บางครั้งชะตากรรม ก็ทดสอบเราอย่างโหดร้ายทารุณ
และผม -ในฐานะของคนไม่เคยมีแฟน หลายครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อถึงคราวต้องเลิกกัน เวลาเหล่านั้นที่ผ่านมาของชีวิต จะหายไปเลยรึเปล่านะ?

บางถ้อยคำจากไอ้วิทย์ เพื่อนที่ผมรู้สึกว่า ความรักของมัน ยั่งยืนที่สุดในบรรดาคนที่รู้จัก …

“ … เมื่อคนสองคนมาพบเจอกัน ด้ายแห่งชะตากรรมของเค้า ก็จะมาสัมผัสกัน มันขึ้นอยู่กับเค้าทั้งสองว่า จะพันมันหรือเปล่า เพราะเมื่อเกิดเป็นปมของชะตากรรมแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะแก้ออก

และหากชีวิตนั้น ไม่ได้สวยงามเหมือนดังที่ฝัน ทางออกสำหรับคนส่วนใหญ่ก็คือ ดึงด้ายให้ขาดออกจากกัน เท่านั้นเอง …”

หยิบเพลงของสุรสีห์ชุดหลังมาฟัง บางถ้อยคำของเพลง ยอมจำนน นั้นเขียนว่า

“คิดว่ารักจะมั่นคง ยังอาจจบลงง่ายๆ ….. แตกสลาย ไม่ได้มีเพียงเรา”

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

เมื่อยัยโอ๋ เกิดนึกอยากจะทำความฝันให้เป็นจริง (ความฝันของเจ้าหล่อนคือ ตระเวณกิน และ ตระเวณเที่ยว ทุกที่ในไทย ก่อนตายยยย) วันนั้นที่นัดเพื่อนๆดูรูป เธอจึงเสนอแนะความคิดเห็นว่า ไปกินร้านอาหารอินเดียกันเถอะ

ไอ้วิทย์ “เอาสิ เรายังไงก็ได้”
จอย (แฟนไอ้วิทย์) “แล้วแต่วิทย์”
มะปราง “น่าสน” (แต่ดันไม่ไป เพราะเธอต้องบินคืนนี้)
ไอ้เม่น “กิน กิน กิน”
ไอ้หมู (อยู่ที่บ้าน) “เฮ้ย มึงจองที่ไว้เลย เดี๋ยวกูขับรถออกไปเลย..”

ผลสุดท้าย จึงไปกินร้านอะไรซาช่าไม่รู้ ตรงสุขุมวิท 39

ไอ้วิทย์ ในฐานะเจ้าตลกอย่างมัน ยังไม่วายเลียนเสียงพนักงานเสิร์ฟ

(ไอ้วิทย์) “เอ่อ ที่นี่รับบัตรอเมริกันเอ็กเพรซมั้ยครับ”
(บ๋อยวิทย์ ทำหน้าโกรธ และดัดเสียงเล็กน้อย) “หะ ร้านเราเกลียดอเมริกันครับ ไม่รับครับ”
(ไอ้วิทย์ ทำท่าค้นบัตรอื่นๆ) “แล้ว VISA , กรุงไทย , ไทยพาณิชย์ , ซิตี้แบ็งค์, มอนโร เอ๊ยไม่ใช่…”
(บ๋อยวิทย์ ทำหน้าโกรธ และดัดเสียงเล็กน้อย) “บอกแล้วไงครับว่าไม่รับ”

“ร้านเรารับแต่ บินลาดินเอ๊กเพรสสสสส” เอิ๊ก เอิ๊กส์…..

จาก: kiki
โฮมเพจ: http://jeuterpe.diaryland.com

Bin Laden! Ahahahaha!! คิดได้ไงเนี่ย??
I like this thing,
with the strings and the meanings to love.
Its a good analogy.
😉

12 มี.ค. 2545 , 14:39 น.

จาก: Kate
โฮมเพจ: http://love is in the air..

ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนหรอกเม่น เพียงทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในทุกจังหวะชีวิตเพื่อที่เราจะไม่ต้องกลับมารู้สึกเสียใจในภายหลัง ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเราได้คิดและทำดีที่สุดแล้ว

ชีวิตหนุ่มสาวนั้นไม่ได้ยืดยาวอย่างที่เราคิด ช่วงเวลาที่เรามีกำลังเต็มที่ก็ต้องใช้อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเราให้ความสำคัญกับสิ่งใดในชีวิตมากกว่า บางอย่างแม้แต่ตอนอายุมากขึ้นก็ยังสามารถทำได้ แต่บางอย่างก็ต้องเริ่มทำตอนนี้ ใช้เวลาทุกวันให้คุ้มค่า เรียนรู้ และเสริมสร้างชีวิต วางแผนชีวิตไว้บางส่วน หาจุดหมายให้เจอ สำหรับเรานั่นก็พอแล้วในวันนี้

แม้จะยังไม่เคยมีแฟนสักที แต่เราเชื่อว่าความรักนั้นก็ละเอียดอ่อนพอที่คนสองคนจะมองเห็นคุณค่าของความรู้สึกนั้น แม้ว่าไม่อาจจะเป็นแฟนกัน แต่มิตรภาพก็ยังสร้างและคงอยู่ได้ ขนาดคนอื่นที่มาทำไม่ดีกับเรา เรายังเป็นเพื่อนกับเขาได้ แล้วคนที่เคยดีกับเราตั้งมากมาย เคยอยู่เคียงข้างเรามาหลายปี เราจะทิ้งมิตรภาพนั้นไปเลยหรือ เป็นเราๆ คงทำไม่ได้หรอก

ไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตตอนนี้นะ อย่างที่เม่นพูดไว้ในเพลงไง แล้วมันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านไป เท่านั้นเอง…

12 มี.ค. 2545 , 16:55 น.

จาก: Garfield
โฮมเพจ: http://www.up2gu.com/

ไม่แปลก… ที่จะเลิกกัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม นะคบกันมาแสนนาน ต้องเลิกทั้งๆที่รักกัน ตอนนี้รอบๆ ตัวพี่เป็นแบบนี้หลายคู่เลย นะ แบบว่าเรียนก็จบแล้วทุกอย่างพร้อมแต่ดันมาเลิกกัน แต่อย่างไร ก็ตาม คงดีกว่าฝืนไปจนกระทั่งแต่งงานกันไปแล้วจึงมาค้นพบตัวเอง ไม่งั้นคงจะทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบอีกหลายคน …. เจอแบบนี้แล้วยิ่งทำให้รู้สึกมั่นใจ และก็ไม่เสียใจ หากเราจะมีแต่เพื่อน พี่ และน้องๆ แต่ก็มีความสุขได้เช่นกัน < เม่น รู้จักร้าน mr.bean ที่ MBK ป่าว >

[iMenn] เอ ไม่รู้จักอ้ะครับ เป็นร้านอาหารหรอครับ พี่กานจะเลี้ยงผมหรอครับ อิอิ

12 มี.ค. 2545 , 16:56 น.

จาก: Y.man

Seams sad…but only seams …its the truth
another curve of life then…go on
take care your life as take care your lovers…

12 มี.ค. 2545 , 18:15 น.

จาก: เทพ83
โฮมเพจ: http://thep2.thaidiarist.com

อืมๆ….เอ็กเพรสนี้ใช้แล้วคงสะสมแต้ม….ครบล้านแต้มคงสั่งเครื่องบินไปชนที่ไหนได้สักแห่ง

12 มี.ค. 2545 , 20:27 น.

จาก: Golf
โฮมเพจ: http://golf_diary.thaidiarist.cm

พี่เม่น…รู้สึกสะเทือนใจเล็กๆอ่ะกับ“บางครั้งชะตากรรม ก็ทดสอบเราอย่างโหดร้ายทารุณ” ไม่อยากเจอบททดสอบแบบนั้นเลยอ่ะ คิดดูนะตอนรักกันก็ปานจะกลืนกิน อะไรๆก็เป็นสีชมพู(ไม่ใช่รักจุฬาพี่) ถ้าต้องเลิกกันมันคงจะเคว้งคว้างน่าดูเลยนะ แล้วก็คงเกิดคำถามกับตัวเองว่า“แล้วที่กูทำๆไปมันคืออะไร จบแค่นี้เองเหรอ…ง่ายจัง แต่เจ็บดี” คงจะเกิดอาการเบลอ งง ไปหลายเดือนเลย เฮ้อชีวิตมันก็น่าเศร้าเน๊อะ

12 มี.ค. 2545 , 23:33 น.

จาก: เดอะกาฝากไดอารี่
โฮมเพจ: http://www.theballball.com

รักกัน ชอบกัน มีใจให้ต่อกัน แต่งงานกัน มีลูกกัน เลิกกัน วัฏจักรที่เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่า มันจะขาดตกบกพร่องส่วนไหนไปเท่านั้นเอง หากโชคดี ก็ขาดไอ้ส่วน เลิกกัน ไป หากโชคร้าย ก็มีแค่ รักกัน กับ เลิกกัน เฮ้อ…

– เก็บตกจากนินทากาเลฯ –
ไอ้บัตรอื่นๆ ก็พอจารู้จัก แต่ไอ้มอนโร เนี่ย ไม่รู้จักแฮะ แต่คุ้นๆ อุอุ

13 มี.ค. 2545 , 08:02 น.

จาก: …..

ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่ทำไปคือความสุขที่ได้เห็นผู้หญิงที่เรารักมีความสุข ก็คงไม่เกิดคำถามว่า “แล้วที่กูทำๆไปมันคืออะไร จบแค่นี้เองเหรอ…ง่ายจัง แต่เจ็บดี”

จงพยายามทำทุกสิ่งโดยไม่หวังผล (แม้จะยาก) แต่ก็จะทำให้เรามีชีวิตที่มีความสุขขึ้น

ไม่รู้นะ แค่เป็นความเห็นนึงเท่านั้นเอง

13 มี.ค. 2545 , 08:03 น.

จาก: Jandara
โฮมเพจ: http://thaidiarist.com/diary/Jandara

ทุกวันนี้พี่ถึงยังครองตัวเป็นโสด…จนอายุปูนนี้แล้ว ก็เพราะรักครั้งหลังยังเจ็บจี๊ดๆอยู่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี

มีคนบอกว่าที่เราเป็นเช่นนี้พราะเรารักตัวเอง สงสารตัวเองมากเกินไป และความรักที่เรากำลังพร่ำเพ้อถึงไม่ใช่ความรักแต่เป็นความเห็นแก่ตัว

คนเดียวกันนี้บอกอีกว่า รักย่อมไม่ผูกพัน ไม่จำกัดตัวบุคคล แต่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่คาดหวัง ไม่ครอบครอง อืม…ยิ่งใหญ่จริงๆเลย….และแน่นอน..บุคคลคนที่ว่านี้…ไม่มีเมีย…

13 มี.ค. 2545 , 09:42 น.

จาก: The weakest link

คุณคือจุดอ่อน!

13 มี.ค. 2545 , 14:34 น.

จาก: ปู๊ด
โฮมเพจ: http://diary.f2g.net/pood/

ดูเศร้าๆนะครับ

บางเวลา ผมกลับรู้สึกว่าตอนที่มันว่างๆนี่แหละ
ที่มันเครียดกว่าตอนทำงานหนักๆ
เวลาว่างมากๆ มักจะทำให้รู้สึกแย่กับตัวเอง
การมีงานทำ ทำให้ชีวิตดูมีค่า

ตอนนี้ว่างงานครับ
ประกาศสมัครงานไว้ ณ ที่นี้เลย.

13 มี.ค. 2545 , 17:54 น.

จาก: ป้าแจ๋วเหลือง
โฮมเพจ: http://aoe.evilgodzilla.com

น่ากลัว น่ากลัว อาการเลิกกับแฟนเนี่ย
ไม่สามารถจินตนาการภาพตัวเองในสภาวะเช่นนั้นได้เลย น่าหวาดเสียวเป็นที่สุด

13 มี.ค. 2545 , 19:03 น.

จาก: Mrs.Rose

อือ…เจ็บนะ ตอนเลิกกันเนี่ย
เสียดายเวลาที่เคยรักกันจัง
แต่ถ้าไม่กลัวเกินไปนัก
รักครั้งใหม่..ยังมี

แบบว่าพี่มันคนกล้าที่จะรัก กล้าที่จะเสียใจน่ะ 🙂

14 มี.ค. 2545 , 01:12 น.

จาก: GOLFee
โฮมเพจ: http://thaidiarist.com/diary/GOLFee

“ บางครั้งชะตากรรม ก็ทดสอบเราอย่างโหดร้ายทารุณ
และผม -ในฐานะของคนไม่เคยมีแฟน หลายครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อถึงคราวต้องเลิกกัน เวลาเหล่านั้นที่ผ่านมาของชีวิต จะหายไปเลยรึเปล่านะ? “

ท่อนนี้ของพี่ ทำผมตกหลุมความรู้สึกเลยครับ
แล้วมันก็จริงนะที่ว่าชะตากรรมทำเราพันกัน
แต่มันก็พิสูจน์ว่าความรักของเราจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่
บางทีกว่าเราจะรู้คุณค่าของความรัก
เราก็เหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะรับมัน
แล้วสุดท้ายด้ายบางๆ ก็ปล่อยห่างกันออกไป…..

14 มี.ค. 2545 , 15:18 น.

จาก: Gung
โฮมเพจ: http://gung.evilgodzilla.com/

เพิ่งออกมาจากบอร์ดแจ๋ว อย่างทะโมนๆ
พอเริ่มอ่านไดน้องเม่นทีไร ทำเราต้องเงียบลงทุกที ..เพราะเหตุใดหนอ
ภาษา มี ชีวิต คล้อยตามกัน อย่างส่งเสริมอารมณ์กันและกัน ..
อยู่ที่นี่ พี่ไม่มีร้านหนังสือ ให้ไปนั่งเปิดยั่วอารมณ์บรรเจิดได้
มีเวบเอ็งนี่แหละ เม่น …

อยากพูดอะไรมากมาย แต่พูดไม่ได้ นอกจากจะบอกว่า ใจหายตาม เพราะภาษาเธอน่ะแหละ

14 มี.ค. 2545 , 20:42 น.

จาก: jane
โฮมเพจ: http://jane.thaidiarist.com

umm…..i was th eone who had experience like pjun a ka
I and my xbf were the couple that people thought that we would get married sure…

then…we broke up…..
its hurt….
i start my new life again here….life go on
its still hurt and i never fall in love again….

15 มี.ค. 2545 , 04:02 น.

ความเห็น