ตุ๊ดแข็งแรง : กองทุนรวมฯ

24 ธ.ค. อู้งานฉลองคริสมาสต์
25 ธ.ค. อู้งานฉลองปีใหม่
26 ธ.ค. อู้งาน + เลี้ยงปีใหม่บริษัท
27 ธ.ค. เอารถไปล้างอ้วกฝีมือน้องที่บริษัท (ไม่ใช่น้องที่ทำงานนะเว้ย)
28 ธ.ค. นอน
29 ธ.ค. ออกเดินทางไปแพ จ.กาญจนบุรี – กลางคืนร่ำสุราศึกหนักถึงหนักมั่กมั่ก
30 ธ.ค. อยู่แพ + เที่ยวกาญจน์ – กลางคืนตุ๊ด
31 ธ.ค. เดินทางกลับ (เพื่อนบางคน อักษรย่อ อ. เริ่มสัมผัสน้ำครั้งแรกนับจากวันที่ 28) countdown ณ twenty (ตามคำขอร้องของนาย ฮ.)
1 ม.ค. แฮ้งค์ : ดูมนต์รักทรานซิสเตอร์ (ชอบมาก)
2 ม.ค. ประชุมงาน
3 ม.ค. ปั่นงานตาเหลือก

ปีใหม่คราวนี้ไปเที่ยวแพกัน เพราะดูจากตัวเลือกแล้ว การไปภูเขานั้นจะเหนื่อย ส่วนการไปทะเลนั้นหนาวไป เพื่อนๆวิศวะที่คิดแค่ว่าจะเปลี่ยนที่กินเหล้า ก็เลยตกลงไปกาญจนบุรีกัน

เช้าวันออกเดินทาง มีคนตื่นทันไม่มากนัก (นัด 9.00 น. ไอ้เหลาว่า 9.30 น.ล้อหมุน แต่รู้สึกคนส่วนใหญ่จะนอน) เลยไปกันด้วยรถไอ้ฮั่นแค่คันเดียว แล้วตอนบ่ายไอ้ดิ๋มขับไปอีก 1 รวมเป็น 2 คัน แต่มีทั้งหมด 12 คน (เพราะไอ้ป๊ะเสือกมาสมทบทีหลัง) ก็นับว่าแออัดกันพอสมควร

เดินทางตอนกลางวัน ชมนกชมไม้ ชมน้ำตก ชมสะพาน กันอย่างผิดวิสัยคนขี้เกียจแล้ว ก็มาถึงเวลาค่ำคืนที่แสนโรแมนติคเสียที ตอนแรกไอ้ฮั่น – พ่อบ้านผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและการช้อบปิ้ง – แนะนำว่า เราโตๆกันแล้ว คงกินเหล้าไม่เยอะนัก เลยซื้อ Red ไป 4 ขวด

แต่แล้วคืนนั้น….

ไอ้เซ.. บุรุษร่างเตี้ยแต่จิตใจสูงส่ง กล่าวถ้อยคำคิดถึงเพื่อนด้วยการเริ่มประโยคว่า “มึงไม่แดกก็ตุ๊ดแล้วไอ้ห่า…”
พร้อมกับหันไปทางไอ้ตาม อดีตผู้สามารถกระดกเหล้าแสงทิพย์(เพียว) หมดกลมได้ในเวลา 2 นาที เอ่ยถาม
”… รึว่างาย .. ท่านจักรพรรดิ”

“มึงเห็นกูใส่กระโปรงอยู่รึ .. น้องเซ ..” ไอ้ตามกล่าวด้วยอาการสุภาพและไว้ตัวเล็กน้อย เยี่ยงจักรพรรดิทั้งหลาย


แต่บัดนั้น ดูเหมือนไอ้เม่นจะไม่เห็นด้วย หรือไม่ทันฟังสัญญาณเริ่มรบ ก็สุดจะเดา แต่มันก็ยังเล่นกีตาร์นุ่มๆในท่วงทำนองสุเมธแอนเดอะปั๋ง ผสม ธีร์ ไชยเดช บวกกับ อินโนเซ็นต์ …

ไอ้เซไม่สบอารมณ์ ยื่นระยางของมันออกมาพร้อมกับขอเพลงไอ้เม่น

“เฮ้ย เม่น กูขอเพลงหน่อยดิ …”
” .. เอาเพลง ช้าๆ ซึ้งๆ ….. ”
” .. แต่ แรงๆ … นะโว้ยยย”

ว่าแล้วมันก็ก่นเพลงพงษ์พัฒน์ด้วยความเมามัน เป็นสัญญานเริ่มต้นแห่งคืนอันหฤโหด …

10 นาทีแรก เหล้าหมด 1 ขวด..
3 ชั่วโมงต่อมา Red หมด 4 ขวด ว็อดก้าหมด 2 กลม ไวน์แดงหมด 3 ลิตร สเปร์หมด 1 กลม

และจบลงด้วยอาการอันน่าเวทนาของเหล่าปีศาจสุราทั้งหลาย …
ขณะที่น้อยคนนักจะสังเกตว่า เพื่อนบางคนมีพฤติกรรมการกินเหล้าที่น้อยผิดปกติไป .. มันชื่อว่า ไอ้เหลา …

ตอนเช้าวันต่อมา เราตัดสินใจไปชมวัด และไปเที่ยวต่างประเทศ (คือพม่าน่ะขอรับ)
ความจริงการเดินทางก็ไม่ไกลมาก แต่ก็ทรมานสังขารพอดู เพราะต้องขับรถข้ามเขา ในทางที่เลี้ยวลด และ วกวน
ซึ่ง การกระทำนั้น ก็ก่อให้เกิดเรื่องราวอันน่าประทับใจอย่างยิ่ง นั่นคือ ไอ้ตาม (ฉายา : จักรพรรดิ) ทนการขับรถของไอ้ฮั่นไม่ได้ จึงประท้วงด้วยการเปิดหน้าต่าง ยื่นหน้าออกไปจากตัวรถที่แล่นด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แล้ว อ้วกกกกกก ……

ไอ้เหลา : “เฮ้ย ตาม เป็นไงมั่งวะ สบายดีรึเปล่า” ว่าแล้วก็ทำท่าตบบ่าปลอบใจด้วยกริยาไม่จริงใจเต็มที่
ตาม : “มึงไม่ต้องมาพูดเลยไอ้ห่า เมื่อคืนแม่งตุ๊ด ไม่ยอมแดก”
ไอ้เหลาชะงักเล็กน้อย แต่แล้ว ก็ทำท่าราวกับตรัสรู้ในปรัชญาอันลึกซึ้ง

ไอ้เหลา : “ถึงกูจะตุ๊ด…”
”…
แต่กูก็ ตุ๊ดแข็งแรง นะโว้ยยย”

พลันที่ไอ้เหลากล่าววาทะประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดแห่งปรัชญาชีวิดในลักษณะตุ๊ดแข็งแรง เพื่อนๆทั้งหมดถึงกับนิ่งงัน และหันมามองด้วยความเลื่อมใส ..
ใช่แล้ว เป็นตุ๊ด.. แล้วจะแข็งแรง

แล้ววาทะนี้ ก็เป็นจุดกำเนิดแห่งการดำเนินชีวิตในช่วงเวลาต่อมาของพวกเรา ให้เข้าข่าย “ตุ๊ดแข็งแรง” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกี่ยงกันขับรถ เกี่ยงกันหาที่กินข้าว เกี่ยงกันกินเหล้า เกี่ยงกัน ฯลฯ (ซึ่งความจริงก็สอดคล้องกับกฎสัตว์ใหญ่ อยู่เหมือนกัน ที่กล่าวว่า “ถ้ามึงเดือดร้อน มึงก็ทำซะ”) เลยไม่ต้องสืบเลยว่า การกินเหล้าในคืนที่ 2 นั้น จะไม่มีใครกระหน่ำใครแม้แต่น้อย เพราะต่างก็ป่าวประกาศก่อนเลย..

“กูเป็นตุ๊ดนะโว้ย”
“อย่าชนกูนะโว้ย กูใส่กระโปรงอยู่”
“เป็นตุ๊ดแล้วแข็งแรงงงง”

กำเนิด “กองทุนรวมเพื่อชายโสดคนสุดท้าย”

ในวันสุดท้ายแห่งทริป ปราฏว่า มีเงินกองกลางเหลืออยู่ 1,100 บาท (เวลาไปเที่ยวกันนั้น พวกเราจะเก็บเงินกันก่อน แล้วให้ใครซักคนดูแล อยากซื้ออะไร กินอะไร มีค่าใช้จ่ายอะไร ก็เอาที่กองกลาง ทุกคนทำตัวเหมือนเที่ยวแบบบุฟเฟต์ ถ้าเงินหมด ก็เก็บกันใหม่)

เงิน 1,100 บาท ก็เหมือนดังกิ่งไม้ในนิทานอีสป หากคืนทุกคน ก็จะได้ไม่ถึง 100 ซึ่งแต่ละคนก็เห็นว่า ควรเอาไว้รวมกันดีกว่า และคุยไปคุยมา ก็พบว่า มันจะดีกว่านั้น ถ้าเอาไปก่อตั้ง กองทุนรวมเพื่อชายโสดคนสุดท้าย

กฎเกณฑ์คร่าวๆก็คือ ทุกคนที่เป็นสมาชิก ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนนี้ปีละ 500 บาท ไปเรื่อยๆ ใครที่แต่งงานคนสุดท้ายก็ได้เงินก้อนนี้ไป แต่ระหว่างนั้น หากมีค่าใช้จ่ายกรณีพิเศษ เช่น ทำบุญเลี้ยงเด็ก… หรืออะไรก็ตาม ถ้าทุกคนอนุมัติเป็นเอกฉันท์ ก็สามารถเอาเงินกองนี้ไปใช้ได้

นัดประชุมเพื่อชี้แจงนโยบายประมาณวันที่ 7 เดือน 9 ของทุกปี (ให้สมรุ่น 79 หน่อยยยย)
ให้ปุ้ย และ ดิ๋ม เป็นคนดูแลบัญชี (มัน 2 ตัว น่าจะมีโอกาสโกงน้อยสุดแล้วในหมู่พวกเรา)
กฎเกณฑ์และรายชื่อ รวมทั้งหลักฐานต่างๆ จะทะยอยนำมาประกาศเป็นสาธารณอกุศล ในเว็บไอ้เม่นด๊อทคอม

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และ เอาเงินมาซะดีๆ
ด้วยจิตคารวะ

ไอ้เม่น

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

ในขณะที่กำลังถกเถียงเรื่อง กองทุนรวมเพื่อชายโสดคนสุดท้าย กันอยู่นั้น ไอ้ ก. ตัวเต็งผู้มีสิทธิ์ในเงินรางวัลในอันดับต้นๆ (อีกความหมายคือ ชาตินี้มันคงหาแฟนไม่ได้) ขณะที่กำลังรื่นเริ่งใจว่ามันต้องได้เงินก้อนนี้แน่ๆ กลับทำท่าราวกับมีอะไรมาจุกอก และใบหน้าซีดเผือด พร้อมกับหันมาทางที่ประชุม

“เฮ้ย เดี่ยวก่อน สมาชิกกองทุนนี้มีแต่ผู้ชายเท่านั้นใช่มั้ยวะ” ไอ้ ก. ถามด้วยอาการตื่นตกใจ
“ก็น่าจะใช่นะ ก็เพื่อนๆเรา แล้วก็อาจจะมีคนสนใจอีก แต่ต้องถามความเห็นทั้งหมดแหละ” เพื่อนๆตอบพลางเลิกคิ้วสงกะสัย
“ว่าแต่ทำไมรึมึง”

“ก็ไม่มีอะไร กูแค่กลัวว่า เดี๋ยว นางสาว ก. จะมาเป็นสมาชิกด้วยน่ะ” ไอ้ ก. บอกด้วยสีหน้าหวาดกลัวขึ้นไปอีก ทั้งๆที่ไอ้เม่นก็เขียนแค่ ตัวอักษรย่อ – ไอ้ห่า ไม่มีใครรู้หรอกน่า
“มึงอย่าบอก นางสาว ก. ละกัน” ไอ้ ก. ตัดบท

“ทำไมวะ” ไอ้เม่นยังไม่เข้าใจ แต่มันก็รับรองว่า ถ้าเอาลงเว็บ จะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ สบายใจได้
“ไอ้เหี้ยเม่น มึงก็รู้ว่านางสาว ก. น่ากลัวขนาดไหน..” ไอ้ ก. บอกต่อ ก่อนจะเอาใบหน้าไปซ่อนในเงามืด
“ถ้าเค้ามาเป็นสมาชิก เค้าก็จะได้เงินก้อนนี้ไปน่ะสิ
เพราะกูยังไม่เห็นวี่แววเลยว่า น.ส. ก.เค้าจะมีแฟน เคี้ยก เคี้ยก เคี้ยก”

ความเห็น