แจ้งข่าวงานเลี้ยงห้อง “อย่างน้อยก็ 9 ปี ที่เรารู้จักกัน”

งานคราวนี้ จัดที่ร้าน รถเสบียง ถ.พระราม 6 วันที่ 22 ธ.ค. 2544 18.00 น. นะครับ มีเพื่อนยืนยันว่าไป ประมาณ 30 กว่าคนแล้วนะครับ (ข้อมูลจากไอ้วิทย์)
(นี่คืองานเลี้ยงห้อง ของเพื่อนบดินทร์ แต่ว่าโดยธรรมเนียมแล้ว จะพาใครไปก็ได้ หากเพื่อนๆวิศวะ สนใจก็บอกผมละกัน ตอนนี้มีไอ้ปุ้ย กับ ไอ้อัค บอกว่าจะไปด้วย)

เนื่องจากคราวนี้ ถือเป็นงานปีใหม่ ก็ต้องมีของขวัญจับฉลากนะครับ
และในโอกาสที่นับอายุกันไปมา หากเป็นทางการก็ต้องบอกว่าครบ 9 ปีแล้วหนา
ดังนั้น จึงมีมติว่า โจทย์ของของขวัญจับฉลากนี้ เป็น “อะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับเลข 9” ราคา 50-100 บาท
และคงมีเกมส์กันเล็กน้อย หลังจากไม่ได้มีกันมา 1-2 ปีแล้ว

(อ้อ http://bodin.isfunny.com นั้น ยังไม่ได้ทำนะ รอข้อมูลจากงานนี้ก่อนละกัน)

(เกร็ดเล็กน้อยของงานห้องในช่วงที่ผ่านมา)

งานในรูปข้างบนนี้กำหนดให้ผู้ชายใส่ชุดเขียว (หรือเสื้อคลุมเขียว-สำหรับบางคน) ส่วนผู้หญิงใส่เสื้อสีแดง
นัยว่าฉลองคริสมาสต์ และ ต้อนรับกระแสจิ้งเขียวโดยการใส่เขียว (ห้ามคิดทะลึ่งนะ)
ของขวัญจับฉลากคือ “อะไรก็ได้ที่อยู่เหนือคอ” จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครเอาอะไรไปจับมั่ง แต่ไอ้วิทย์เอาแปรงขัดส้วมไปจับฉลาก

“แปรงขัดส้วมมันอยู่เหนือคออะไรวะ” เพื่อนๆถามด้วยความสงสัย
“ก็เหนือคอห่านไงไอ้ห่า ไม่รู้จักพลิกแพลงเลยมึง” ไอ้วิทย์ตอบด้วยมาดมั่น และภูมิใจในมุขตลกที่เสียเวลาคิดมาค่อนคืน

แต่แล้วเมื่อเห็นของขวัญจับฉลากของไอ้เม่น มันก็ต๊กใจ
“หะ เข็มขัดนี่หว่า มันอยู่เหนือคออะไรวะ”

พลันที่คำถามหลุดจากปาก ไอ้วิทย์ก็ทำท่าราวกับรู้สึกเสียเชิงและเพลี้ยงพล้ำในสถานภาพเจ้าตลกของมัน

“มึงไม่รู้จริงๆหรอวะ ” ไอ้เม่นเริ่มประโยคด้วยยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ว่าเข็มขัด มันอยู่เหนือคออะไร อิอิอิ”

งานนี้จัดที่ร้านอะไรจำไม่ได้ ถ.สุขุมวิท กำหนดของขวัญจับฉลากเป็น “อะไรก็ได้ที่ไม่มีวันหมดอายุ”
แน่นอนว่า ใครต่อใครย่อมเอาของซึ้งๆมาจับฉลากกัน แต่ไอ้เม่นรู้สึกมันจะไม่ค่อยเหมาะกับเรื่องประเภทนี้ มันจึงหาหนทางใหม่

“เฮ้ยเม่น ทำไมของขวัญมึงกล่องใหญ่จังวะ..”
“โฮ่ แน่นอน กูใส่ความหวังดีเข้าไปเต็มเปี่ยม..ลองแกะดูสิมึง”

หลังจากเพื่อนผู้โชคดี (สมเกียรติ) แกะกล่องเสร็จ ก็เจอกล่องนมขนาด 5 ลิตร 2 กล่อง
“ไอ้ห่า นี่มันนมนี่หว่า ไหนโจทย์ว่า ของที่ไม่มีวันหมดอายุไง”

ไอ้เม่นยิ้มดีใจ ราวกับนายพรานผู้เจอเหยื่อหลงกล มันจึงต้องเฉลยปริศนา
“ไอ้ห่า มึงลองหาดูเลย หายังไงก็ไม่มีป้ายวันหมดอายุโว้ย กูเพิ่งลบออกเมื่อเช้านี้เอง..
เพราะฉะนั้น นี่ก็คือ นมที่ไม่มีวันหมดอายุไงล่ะ อิอิอิ”

– – –
(แม้ว่าจะถ่อยสำหรับ Traffic เพราะหน้านี้มีแต่รูป ซึ่งรวมแล้วก็ 300 กว่า K.
แต่กระผมก็คงไม่คิดแก้ตัว หรือขอโทษ ..
โปรด Load ไปเถอะท่านทั้งหลาย อะอะ)

และอันนี้ล่าสุด ไปถีบจักรยานนนนน !!!

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

เพื่อนบดินทร์หลายคนทีรู้จักกัน มักจะมีการเล่นมุขประเภทหนึ่ง อาจเรียกได้ว่าเป็นมุขคอนเท้นท์ (Content) ซึ่งแกนหลักของมุขประเภทนี้ คือไอ้พวกเรียนหมอ เวลาเจอกันมันมักจะใช้ศัพท์ที่ไม่มีใครเข้าใจ
วันหนึ่งเพื่อนๆเห็นไอ้วิทย์เดินเข้ามา อาการไม่ค่อยจะดีนัก จึงถามด้วยอาการเป็นห่วง

เพื่อนๆ : “เฮ้ย มึงเป็นอะไรมากเปล่าวะ ดูท่าไม่ค่อยสบาย”
ไอ้วิทย์ : “ไอ้เหี้ย กูเป็นโรคไพโรเนเคียว่ะ”
ฟังจากชื่อโรคแล้ว ดูท่าทางมันน่าจะร้ายกาจมาก พวกเราเลยหาที่ให้มันนั่ง และ ปรนนิบัติพัดวี ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

จนเพื่อนเรียนหมออีกคนเดินเข้ามา ถามไถ่ซักพัก ก็บอกว่า
“มึงจะไปห่วงมันทำห่าอะไร มันเล็บขบโว้ย”

…….

เด็กวิศวะมีการประยุกต์ใช้ความรู้ กับการดำเนินชีวิตหรือไม่ อันนี้หลายคนอาจไม่แน่ใจ แต่ไอ้เม่นเห็นมากับตา ว่ามีคนทำด้ายย

ขณะที่นั่งดูวีดีโอสารคดีกำเนิดสัตว์โลกกับเหล่าเพื่อน เมื่อเปรียบเทียบวิทยากรของแต่ละชาติแล้ว ก็พบว่ามีความแตกต่างอยู่หลายประการ

ไอ้กอล์ฟ (นามสมมติ) “เม่น(นามสมมติอีกเหมือนกัน) มึงเห็นมะ กูว่าแล้ว วี มันเท่ากับ เอฟแลมด้า”

ไอ้เม่นถึงกับงุนงง ไอ้ห่า คนกำลังดูสารคดีชีวะ ทำไมมันพูดเรื่อง ฟิสิกส์

“ยังไงวะ” ไอ้เม่นถามด้วยอาการไร้เดียงสา

“ไอ้ห่า V (ความเร็ว) = f (ความถี่) * l (ความยาวคลื่น)
เพราะฉะนั้น ถ้าแลมด้าสั้น มึงก็ต้องใช้ความถี่มากไง อิอิอิ”

ความเห็น